Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.
ในปี พ.ศ. 2505 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล โดยคณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำโครงการที่จะจัดให้มีมหาวิทยาลัยในภาคใต้ขึ้น ตามแผนพัฒนาภาคใต้ ในขั้นต้นคณะกรรมการจัดทำโครงการ คิดกันว่าจะจัดตั้งในระดับวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (College of Arts and Sciences) แล้วต่อไปจึงจะขยายเป็นมหาวิทยาลัย คณะกรรมการชุดนี้ ได้ดำเนินการตามโครงการถึงขั้นสำรวจบริเวณที่จะก่อตั้งมหาวิทยาลัย โดยทำการสำรวจที่ทุ่งนเรนทร์ ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี แต่การดำเนินงานของคณะกรรมการชุดนี้ก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะไม่ได้รับงบประมาณในปี 2506 ประกอบทั้งในช่วงนี้มีการเปลี่ยนรัฐบาล และได้มีการตั้งคณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ ชุดใหม่ โดยมี พ.อ.ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศในรัฐบาลชุดนั้นเป็นประธานคณะกรรมการ
คณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ชุดใหม่ ได้ดำเนินการตามโครงการที่จะจัดให้มีมหาวิทยาลัยในภาคใต้ต่อไป จนถึงปี 2508 คณะรัฐมนตรีก็อนุมัติในหลักการ 2 ประการคือ
1.
ให้มีมหาวิทยาลัยภาคใต้ โดยมีศูนย์กลางที่ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยให้มีคณะวิศวกรรมศาสตร์ขึ้นก่อนและมีโครงการที่จะจัดตั้งคณะวิชาต่างๆ กระจายตามจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ เช่น จะจัดตั้งคณะครุศาสตร์และคณะ รัฐศาสตร์ ที่ตำบลเขาตูม อำเภอเมือง จังหวัดยะลา จะจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ที่ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา และจะจัดตั้งคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นต้น
2.
ให้มีงบประมาณเพื่อดำเนินการตามข้อ 1 ในปี 2509 เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท
คณะกรรมการพัฒนาภาคใต้ชุดนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการก่อตั้งมหาวิทยาลัยภาคใต้ขึ้นในปี พ.ศ. 2508 โดยมี พ.อ.ถนัด คอมันตร์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ คณะกรรมการฯ เริ่มดำเนินการให้มีการก่อสร้างมหาวิทยาลัยที่ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ในปี พ.ศ. 2509 โดยมุ่งที่จะใช้เป็นอาคารของคณะวิศวกรรมศาสตร์ก่อน ในขณะที่ดำเนินการก่อสร้างที่จังหวัดปัตตานีนั้น มหาวิทยาลัยยังไม่มีชื่อเป็นทางการจึงใช้ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยภาคใต้" และมีสำนักงานชั่วคราวของมหาวิทยาลัยอยู่ที่ อาคารคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (ปัจจุบันคือ อาคารคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล) ในระยะนี้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย อยู่ในรูปของคณะกรรมการ (คือคณะกรรมการดำเนินการก่อตั้งมหาวิทยาลัยภาคใต้) โดยมีประธานคณะกรรมการ ทำหน้าที่เหมือนอธิการบดี ซึ่งในขณะนั้นคือ พ.อ.ถนัด คอมันตร์ ต่อมาคณะกรรมการฯ เห็นว่า เพื่อให้สถาบันแห่งนี้เป็นศูนย์รวมในด้านจิตใจ ของประชาชนชาวไทย และเพื่อเป็นศิริมงคลแก่มหาวิทยาลัย ควรได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานชื่อให้แก่มหาวิทยาลัย
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2510 ว่า "มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" ตามพระนามฐานันดรศักดิ์ของสมเด็จพระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์ (จากพระมหากรุณาธิคุณนี้ มหาวิทยาลัยจึงถือว่าวันที่ 22 กันยายน ของทุกปีเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของมหาวิทยาลัย โดยกำหนดเป็น "วันสงขลานครินทร์"
ในปี 2510 มหาวิทยาลัยก็เปิดรับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นนักศึกษารุ่นแรกของมหาวิทยาลัย จำนวน 50 คน โดยใช้อาคารเรียนของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เช่นเดียวกัน ด้านการเรียนการสอนนั้น ศาสตราจารย์ ดร.สตางค์ มงคลสุข ได้เสนอให้ตั้งคณะวิทยาศาสตร์ขึ้นมาเพื่อเป็นแกนกลางบริการสอนวิชาพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เปิดรับนักศึกษาแล้ว และแก่คณะอื่นๆ ที่จะเปิดรับต่อไป ในเดือน พฤษภาคม 2510 มหาวิทยาลัยก็มีอาจารย์รุ่นแรกจำนวน 5 คน คือ ดร.ประดิษฐ์ เชยจิตร ดร.ปรีดา วิบูลย์สวัสดิ์ ดร.นาท ตัณฑวิรุฬห์ อาจารย์เย็นใจ เลาหวณิชย์ และ ดร.ศิริพงษ์ ศรีพิพัฒน์ ทำการสอนวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ ส่วนวิชาพื้นฐานด้านวิศวกรรมศาสตร์นั้น ได้รับความร่วมมือในการสอน และวัสดุอุปกรณ์การทดลอง จากโรงเรียนช่างฝีมือทหาร กรุงเทพฯ
ในระหว่างที่การดำเนินการก่อสร้างมหาวิทยาลัยที่ปัตตานีดำเนินการแล้วเสร็จเป็นบางส่วนแล้วนั้น ศาสตราจารย์ ดร.สตางค์ มงคลสุข และคณะอาจารย์ใหม่ ของมหาวิทยาลัยได้เดินทางไปสำรวจดูแลการก่อสร้าง และพบว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ไม่เหมาะสมที่จะสร้างเป็นอาคารของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพราะสภาพพื้นดินเป็นที่ลุ่มและดินมีความอ่อนมาก ไม่สามารถรองรับน้ำหนักเครื่องจักร หรือรับน้ำหนักอาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เป็นอาคารใหญ่ๆ ได้ และอีกประการหนึ่ง บริเวณนี้อยู่ติดชายทะเล ความชื้นและไอน้ำจากทะเลจะทำให้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ของคณะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโลหะและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เสื่อมสภาพได้ง่าย คณะสำรวจจึงเห็นว่าปัตตานีเหมาะที่จะใช้เป็นอาคารคณะศึกษาศาสตร์ และคณะวิชาทางศิลป-ศาสตร์มากกว่า ส่วนอาคารของคณะวิศวกรรมศาสตร์นั้น คณะสำรวจได้พิจารณาหาสถานที่ใหม่ที่มีความเหมาะสม คณะสำรวจเห็นว่าบริเวณที่ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยมาก คณะสำรวจจึงได้ติดต่อกับคุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร ซึ่งคุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร ก็ได้บริจาคที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นจำนวน 690 ไร่ เพื่อให้จัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยต่อไป
ส่วนในด้านการบริหารนั้น ในวันที่ 12 มีนาคม 2511 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศใช้พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ขึ้น มหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของ มหาวิทยาลัยโดยกำหนดเป็น "วันสถาปนามหาวิทยาลัย" และในวันที่ 8 เมษายน 2511 ก็มีประกาศแบ่งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ออกเป็น 3 ส่วนคือ
1.
สำนักงานอธิการบดี
2.
คณะวิทยาศาสตร์
3.
คณะวิศวกรรมศาสตร์
และในวันที่ 17 เมษายน 2511 ก็ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ ฯพณฯ พ.อ. ถนัด คอมันตร์ เป็นอธิการบดี และศาสตราจารย์ ดร.สตางค์ มงคลสุข เป็นรองอธิการบดี ในปี 2511 มหาวิทยาลัยก็เปิดรับนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์รุ่นแรก จำนวน 60 คน เป็นนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์ 35 คน และสาขาศิลปศาสตร์ 25 คน โดยในภาคการศึกษาแรกก็ยังคงใช้อาคารเรียนของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์อยู่ เมื่อการก่อสร้างอาคารที่ปัตตานีแล้วเสร็จเป็นบางส่วน ในภาคการศึกษาที่ 2 คณะอาจารย์และนักศึกษาก็ได้ย้ายมาที่ศูนย์ปัตตานีพร้อมกันในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2511 ส่วนนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็ยังคงอาศัยเรียนที่กรุงเทพฯ ต่อไป ต่อมาในวันที่ 5 ธันวาคม 2511 มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการแบ่งส่วนราชการ ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2511 โดยประกาศฯ ใหม่ ให้เพิ่มคณะศึกษาศาสตร์เป็นส่วนราชการของมหาวิทยาลัยเพิ่มเติม
สำหรับการก่อสร้างมหาวิทยาลัยที่ศูนย์ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลานั้น เริ่มก่อสร้างในปี 2512 เมื่อการก่อสร้างบางส่วนแล้วเสร็จในปี 2514 วันที่ 5 กรกฎาคม 2514 อาจารย์และนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีที่ 2, 3 และ 4 ประมาณ 200 คน ก็ย้ายมาอยู่ประจำที่ศูนย์หาดใหญ่ ส่วนนักศึกษาปีที่ 1 ก็ยังคงเรียนที่กรุงเทพฯ และย้ายตามลงมาในปลายปีการศึกษา 2514 สำหรับนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ซึ่งเริ่มเปิดรับรุ่นแรกในปี 2512 จำนวน 60 คน และบุคลากรหน่วยต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ก็ย้ายมายังศูนย์หาดใหญ่ในปี 2514 เช่นเดียวกัน จึงถือว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ย้ายที่ทำการมาอยู่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อย่างถาวรภายในปี 2514
จากนั้นเป็นต้นมา มหาวิทยาลัยฯ ก็ดำเนินงานมาด้วยความเจริญก้าวหน้า และได้เปิดคณะวิชาต่างๆ จนถึงปัจจุบันมี 25 คณะ ในด้านการผลิตบัณฑิต มหาวิทยาลัยฯ เปิดสอนสาขาวิชาการต่างๆ จำนวน 295 สาขา เป็นการศึกษาระดับประกาศนียบัตรและบัณฑิตศึกษา 146 สาขา ปริญญาตรี (4-6 ปี) 149 สาขา ซึ่งพอจะสรุปพัฒนาการได้ตามลำดับดังนี้
ปี 2510
-
รับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์
2511
-
รับนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์
2512
-
รับนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์
2516
-
รับนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์
2517
-
รับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์
2518
-
รับนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
2519
-
รับนักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ
2520
-
รับนักศึกษาคณะทรัพยากรธรรมชาติ
-
รับนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนภูเก็ต (อนุปริญญา)
2522
-
รับนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์
-
รับนักศึกษาบัณฑิตวิทยาลัย สาขาเคมีศึกษาเป็นสาขาแรก
2526
-
รับนักศึกษาคณะทันตแพทยศาสตร์
2528
-
รับนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2529
-
รับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตต่อเนื่อง (1 ปี และ 2 ปี)
2532
-
รับนักศึกษาวิทยาลัยอิสลามศึกษา
2533
-
รับนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนสุราษฎร์ธานี (อนุปริญญา)
-
โครงการจัดตั้งวิทยาเขตภูเก็ต
2534
-
รับนักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โครงการขยายการศึกษาที่จังหวัดตรัง
2535
-
โครงการจัดตั้งคณะการจัดการสิ่งแวดล้อม
2536
-
โครงการจัดตั้งคณะอุตสาหกรรมเกษตร
2537
-
รับนักศึกษาคณะการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว วิทยาเขตภูเก็ต
-
รับนักศึกษาบัณฑิตศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาชีวเคมีเป็นสาขาแรก
2538
-
จัดตั้งคณะอุตสาหกรรมเกษตร
2539
-
พัฒนาโครงการขยายการศึกษาที่จังหวัดตรัง เป็นวิทยาเขตสารสนเทศ
2540
-
จัดตั้งคณะศิลปศาสตร์
2542
-
รับนักศึกษาโครงการจัดตั้งคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
2543
-
เปลี่ยนชื่อโครงการจัดตั้งคณะการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว วิทยาเขตภูเก็ต
เป็นโครงการจัดตั้งคณะอุตสาหกรรมบริการ
2545
-
จัดตั้งคณะอุตสากรรมบริการ
-
จัดตั้งคณะวิทยาการสื่อสาร ที่วิทยาเขตปัตตานี
-
จัดตั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่วิทยาเขตปัตตานี
-
จัดตั้งสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา ที่วิทยาเขตปัตตานี
-
จัดตั้งสถาบันทรัพยากรชายฝั่ง
-
เปลี่ยนชื่อโครงการจัดตั้งคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
เป็นคณะเทคโนโลยีและการจัดการ
2546
-
จัดตั้งคณะนิติศาสตร์ ที่วิทยาเขตหาดใหญ่
-
จัดตั้งคณะพาณิชยศาสตร์และการจัดการ ที่วิทยาเขตตรัง
-
จัดตั้งคณะเศรษฐศาสตร์ ที่วิทยาเขตหาดใหญ่
2547
-
กำหนดให้จัดการศึกษาที่ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และตรัง เป็นเขตการศึกษา
2548
-
จัดตั้งโครงการจัดตั้งคณะการแพทย์แผนไทย
-
เปิดรับนักศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย
เข้าศึกษาในโรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ที่วิทยาเขตหาดใหญ่
-
จัดตั้งคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ที่เขตการศึกษาภูเก็ต
-
จัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ ที่วิทยาเขตปัตตานี
-
จัดตั้งจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่เขตการศึกษาสุราษฎร์ธานี
2550
-
จัดตั้งคณะการบริการและการท่องเที่ยว (เดิมชื่อคณะอุตสาหกรรมบริการ)
-
คณะวิเทศศึกษา
-
โครงการจัดตั้งวิทยาลัยนานาชาติ
2551
-
จัดตั้งคณะการแพทย์แผนไทย
-
จัดตั้งโครงการจัดตั้งคณะเทคนิคการแพทย์
-
เปลี่ยนชื่อ "คณะเทคโนโลยีและการจัดการ" เป็น คณะวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีอุตสาหกรรม และเปลี่ยนชื่อ "คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์"
เป็น คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ
2552
-
จัดตั้งโครงการจัดตั้งคณะสัตวแพทยศาสตร์
2554
-
จัดตั้งคณะเทคนิคการแพทย์
ในด้านผู้บริหารมหาวิทยาลัยนั้น ตั้งแต่เริ่มมีพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมาเมื่อปี พ.ศ. 2511 จนถึงปัจจุบัน มีคณะผู้บริหารซึ่งมีอธิการบดีเป็นหัวหน้า ทำการบริหารมหาวิทยาลัยมาแล้ว 15 สมัย ดังนี้
สมัยที่ 1
เม.ย. 2511 – มี.ค. 2512
ฯพณฯ พ.อ.(พิเศษ) ถนัด คอมันตร์
สมัยที่ 2
มี.ค. 2512 – ก.ค. 2514
ศ.ดร.สตางค์ มงคลสุข
สมัยที่ 3
ก.ค. 2514 – ก.ค. 2516
ศ.ดร.บัวเรศ คำทอง
สมัยที่ 4
ก.ค. 2516 – ก.ค. 2518
ศ.นพ.สวัสดิ์ สกุลไทย
สมัยที่ 5 และ 6
ก.ค. 2518 – ก.ค. 2522
ผศ.ดร.ผาสุข กลุละวณิชย์
สมัยที่ 7 และ 8
ก.ค. 2522 – มิ.ย. 2528
รศ.นพ.ทองจันทร์ หงศ์ลดารมภ์
สมัยที่ 9 และ 10
ก.ค. 2528 – พ.ค. 2534
ผศ.ดร.ผาสุข กลุละวณิชย์
สมัยที่ 11 และ 12
มิ.ย. 2534 – พ.ค. 2540
รศ.ดร.ศิริพงษ์ ศรีพิพัฒน์
สมัยที่ 13
มิ.ย. 2540 – พ.ค. 2543
ผศ.ดร.สุนทร โสตถิพันธุ์
สมัยที่ 14 และ 15
มิ.ย. 2543 – มี.ค. 2549
รศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์
สมัยที่ 16 และ 17
พ.ค. 2549 – พ.ค. 2555
รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข
สมัยที่ 18
มิ.ย. 2555 – ปัจจุบัน
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล